วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์ ปี 2565-2566 พร้อมเฉลย.

ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์ ปี 2565-2566 พร้อมเฉลย





การทดสอบใบขับขี่หรือที่เรียกว่าการทดสอบการขับขี่เป็นการสอบภาคปฏิบัติที่ดำเนินการโดยบุคคลที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถ จุดประสงค์ของการทดสอบคือเพื่อประเมินความรู้ของแต่ละคนเกี่ยวกับกฎจราจรและความสามารถในการขับขี่ยานยนต์อย่างปลอดภัย การทดสอบโดยทั่วไปประกอบด้วยส่วนที่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบุคคลต้องแสดงความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรและกฎหมายจราจร และส่วนที่ปฏิบัติได้ ซึ่งบุคคลนั้นต้องแสดงทักษะการขับรถของตน การทดสอบอาจรวมถึงการทดสอบการมองเห็นเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นมีการมองเห็นเพียงพอที่จะควบคุมยานพาหนะได้อย่างปลอดภัย ในกรณีส่วนใหญ่ บุคคลทั่วไปต้องผ่านการทดสอบใบขับขี่ก่อนที่จะมีสิทธิ์ได้รับใบขับขี่

แนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ ที่ได้รวบรวม ตามหัวข้อ โดยข้อสอบจะมีสุ่มออกจากทุกหัวข้อมา 50 ข้อและผู้ที่รับการทดสอบต้องทำให้ได้ 45 ข้อ หรือ 90 % จะผ่านการทดสอบข้อเขียน ซึ่งเราได้รวบรวมเป็นหัวข้อ ดังนี้

  1. หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
  2. หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
  3. หมวดเครื่องหมายพื้นทาง
  4. หมวดป้ายบังคับ
  5. หมวดป้ายเตือน
  6. หมวดป้ายแนะนำ
  7. หมวดมารยาทและจิตสำนึก
  8. หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
  9. หมวดการบำรุงรักษารถ

ทำไมเราถึงต้องมีใบขับขี่ในการขับรถ

 ใบขับขี่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่อนุญาตให้บุคคลใช้ยานยนต์บนถนนสาธารณะ การมีใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่มีความสามารถและปลอดภัยบนท้องถนน ใบขับขี่เป็นหลักฐานว่าบุคคลนั้นผ่านการทดสอบการขับขี่และรู้กฎจราจร นอกจากนี้ ใบขับขี่มักจะจำเป็นในการลงทะเบียนยานพาหนะและรับประกันภัย การมีใบขับขี่เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ และการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดค่าปรับและบทลงโทษอื่นๆ

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2565

แนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

 แนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์



วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

แนวข้อสอบใบขับขี่ 2565 สำหรับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ อัพเดตล่าสุด และ เฉลยแบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

ข้อสอบใบขับขี่จะเป็นการสอบเพื่อทำใบขับขี่ใหม่ มีจำนวน 50 ข้อ ส่วนข้อสอบอบรมใบขับขี่จะเป็นการสอบต่ออายุใบอนุญาตขับขี่มี 3 ข้อ ให้ทำระหว่างก่อนและหลังอบรม 1 ชั่วโมง

แนวข้อสอบใบขับขี่ 50 ข้อ ประกอบด้วย


1. เอกสารประจำตัวของผู้ขับรถยนต์ที่ต้องใช้ควบคู่กับใบขับขี่ คือ สำเนาทะเบียนภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ (หรือเรียกสั้นๆ ว่า สำเนาทะเบียนรถ) รถยนต์ที่นำมาใช้บนท้องถนนควรมีสำเนาทะเบียนรถติดไว้ เพื่อป้องกันการโจรกรรม และการติดตามตัวเจ้าของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ


2. ความผิดเมื่อกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบก เมื่อได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงาน ต้องชำระค่าปรับภายใน 7 วัน


3. เมื่อใบขับขี่หมดอายุ จะต้องยื่นคำร้องขอทำใหม่ใน 15 วัน


4. หากผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ จะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5. ผู้ขับรถใช้ใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุ มีความผิดปรับไม่เกินสองพันบาท


6. ผู้ขับรถที่ต้องการจะเลี้ยวรถ ต้องชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เพื่อให้ผู้ที่ร่วมใช้ถนนได้สังเกตเห็น


7. การหยุดรถบริเวณทางแยก จะต้องหยุดหลังเส้นแนวหยุด


8. บริเวณทางโค้งรัศมีแคบห้ามแซง


9. การจอดรถ จะต้องจอดไม่เกินขอบทาง 25 เซนติเมตร


10. รถที่นำมาใช้บนทางถนนได้จะต้องเป็นรถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว มีสภาพมั่นคงแข็งแรง ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด มีระดับเสียงเครื่องยนต์ระดับ 80 เดซิเบล


11. รถจักรยานยนต์ที่มีอายุครบ 5 ปี จะต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี


12. รถที่จดทะเบียนแล้วหากต้องการจะเปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งนายทะเบียนใน 7 วัน


13. หากประสงค์จะย้ายรถ เจ้าของรถยนต์จะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน


14. การตรวจสอบรถดับน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ จะต้องตรวจสอบหลังดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 10 นาที


15. รถที่ไม่ได้เสียภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องชำระเพิ่มร้อยละ 1 บาท ต่อเดือน


16. เมื่อถึงทางรถไฟ และมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่จะต้องหยุดให้ห่างจากรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร


17. บริเวณที่มีป้ายห้ามหยุดรถ จอดรถไม่ได้


18. ผู้ขับขี่ควรขับรถในอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด


19. บริเวณ โรงเรียน สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ห้ามใช้เสียงแตร


20. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่หลบหนีให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด


21. เสียงแตรใช้ได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ


22. เมื่อผู้ขับขี่ต้องการกลับรถ ต้องกลับรถในช่องทางที่มีป้ายจราจรอนุญาตให้กลับรถ และกลับรถเข้าช่องทางที่ถูกต้อง



23. รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถทางซ้ายสุด


24. ในช่องทางเดินรถที่มีช่องทางตั้งแต่สองช่องขึ้นไป ผู้ขับรถจักรยานยนต์จะต้องขับในช่องทางซ้ายสุด


25. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชนิด 5 ปี ต่ออายุล่วงหน้า 3 เดือน


26. เมื่อกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และได้รับคำสั่งผู้ตรวจการรถยนต์ให้ไปรายงานตัว ผู้ขับขี่จะต้องไปรายงานตัวต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน


27. ผู้ขับขี่จะต้องขับรถห่างจากคันหน้าในระยะที่สามารถหยุดรถได้ปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น


28. ผู้ขับขี่ที่ต้องการจะเลี้ยวซ้าย จะต้องขับรถในช่องทางซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยว 30 เมตร


29. ผู้ขับขี่จะต้องเปิดไฟหน้า หรือไฟท้าย ให้รถคันอื่นเห็นในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร


30. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่แซงรถคันอื่นในขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน ในระยะ 60 เมตร


31. คนเดินเท้า ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2532


32. ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะต้องมีระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์


33. โทษการดื่มแอลกอฮอล์เมื่อพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


34. เมื่อต้องการจะเปลี่ยนช่องทางทุกครั้ง ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร


35. ในการถอดขั้วแบตเตอรี่ควรถอดขั้วลบก่อน


36. น้ำบาดาลไม่ควรนำมาเติมในถังพักหม้อน้ำ



37. การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ห้ามใช้เบรกอย่างเด็ดขาด


38. ผู้ขับขี่รถ เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด


39. ภายหลังรถออกตัวระยะ 3 - 4 เมตร ควรทดสอบระบบเบรกก่อน


40. ก่อนออกจากรถไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่รถต้องมองกระจกด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไปทางด้านหลังก่อนออกรถ


41. หากเกิดฝนตกจนมองเห็นทางไม่ชัด ผู้ขับขี่ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย แล้วเปิดไฟหน้ารถ และไฟฉุกเฉิน


42. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวขวาและมีรถทางขวาสวนมา จะต้องหยุดรอให้รถทางตรงสวนมาก่อนจึงเลี้ยวได้


43. หากมีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกันในเส้นทางเดียวกัน ผู้ที่จะเลี้ยวซ้ายต้องหยุดให้ทางแก่รถที่เลี้ยวมาจากทางขวาก่อน


44. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะที่รถยังไม่หยุดนิ่ง จะทำให้เข้าเกียร์ยาก และเกียร์เสียเร็วกว่าปกติ


45. ลมยางควรตรวจสอบเมื่อยางรถยังเย็นอยู่ ไม่ควรตรวจขณะรถบรรทุกของหนักและใช้งานเพิ่งเสร็จ


46. สัญญาณไฟฉุกเฉิน ควรใช้เมื่อรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ


47. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่าง ตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านหน้าของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ


48. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง ผู้ขับขี่นั้นต้องการลดความเร็วของรถ



49. ลมยางหน้าอ่อน จะส่งผลต่อการสึกหรอ พวงมาลัยหนัก และรถกินน้ำมัน


50. ทบทวนความรู้เรื่องเครื่องหมายจราจรต่างๆ
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของแนวข้อสอบใบขับขี่ หากต้องการศึกษาเพิ่มเติม เช็กราคาคู่มือสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้

ตัวอย่างข้อสอบอบรมต่อใบขับขี่ ให้ลองทดสอบกัน โดยแบ่งตามประเภทการ ต่อใบขับขี่ มีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

แบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ สำหรับ ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง (จำนวน 3 ข้อ)


1.ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุในเมืองไทยเกิดจากคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม แต่เกิดจากคน มากกว่า 90% ข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากคนมากที่สุด?
 ก. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
 ข. ขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด
 ค. ขับรถจี้คันหน้าในระยะกระชั้นชิด
 ง. เมาแล้วขับ

2. เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยมีหลักการอยู่กี่ข้อ?
 ก. 3 ข้อ
 ข. 4 ข้อ
 ค. 5 ข้อ
 ง. 6 ข้อ

3. หลักการมองกระจกที่ถูกต้องในสภาวะปกติ ต้องมองกระจกทุกๆ กี่วินาที?
 ก. 4-8 วินาที
 ข. 5-8 วินาที
 ค. 6-8 วินาที
 ง. 7-8 วินาที

แบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ สำหรับ ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง (จำนวน 3 ข้อ)


4.การทักทายถือเป็นประตูบานแรกที่สำคัญต่อความปลอดภัยในการขับรถ ดังนั้นก่อนการขับรถเราต้องทักทายสิ่งใดบ้าง?
 ก. ตนเอง ครอบครัว และรถ
 ข. ตนเอง ผู้โดยสาร และเพื่อนบ้าน
 ค. คน รถ และสภาพการจราจร
 ง. คน ผู้ใช้รถร่วมกัน และสภาพถนน

5. การเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ มีความจำเป็นต่อการใช้รถอย่างปลอดภัย เราควรเข้าใจต่อสิ่งใดบนท้องถนนบ้าง?
 ก. สิ่งมีชีวิต ยานพาหนะ สิ่งแวดล้อม
 ข. สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม คนเดินถนน
 ค. สิ่งมีชีวิต คนเดินถนน ยานพาหนะ
 ง. สิ่งมีชีวิต ยานพาหนะ ผู้ใช้รถใช้ถนน

6. จุดบอดของรถเป็นพื้นที่อันตรายในการขับรถโดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนช่องจราจรหรือการแซงรถ ซึ่งเราสามารถกำจัดจุดบอดด้วยวิธีการใด?
 ก. การมองกระจกข้าง
 ข. การมองกระจกหลัง
 ค. การมองข้ามไหล่
 ง. การหันไปมองด้านหลังรถ

แบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ สำหรับ ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง (จำนวน 3 ข้อ)


7. ใบอนุญาตขับรถสาธารณะมีอายุกี่ปี?
 ก. 1 ปี
 ข. 2 ปี
 ค. 3 ปี
 ง. 5 ปี

8. ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ?
 ก. พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่า 1 ปี
 ข. พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่า 2 ปี
 ค. พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่า 3 ปี
 ง. พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่า 5 ปี

9. ผู้ขับรถสาธารณะต้องให้สัญญาณไฟเมื่อเข้าช่องทางก่อนเลี้ยว และเปิดไฟเลี้ยวไม่น้อยกว่ากี่เมตร?
 ก. 15 เมตร
 ข. 30 เมตร
 ค. 50 เมตร
 ง. 60 เมตร

แบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ สำหรับ ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง (จำนวน 5 ข้อ)


10.ข้อใดคือมารยาทในการใช้ความเร็ว?
 ก. ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด
 ข. ใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดได้เมื่อจะแซงรถ
 ค. เมื่อไม่มีคนในเขตชุมชนใช้ความเร็วได้ทันที
 ง. ขับขี่อย่างปลอดภัยต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

11. ข้อใดไม่ใช่การเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการใช้รถ (BEWAGON)?
 ก. ตรวจเช็คเบรก
 ข. ตรวจเช็คน้ำในหม้อรถยนต์
 ค. ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าต่างๆ ในรถยนต์
 ง. ตรวจเช็คการใช้งานเครื่องปรับอากาศรถยนต์

12. ข้อใดคือมารยาทในการขับรถสวนทางกัน?
 ก. ขับรถในช่องทางเดินรถแล้วไม่จำเป็นต้องลดความเร็ว
 ข. ขับรถสวนกันในเวลากลางคืนให้กดแตรเตือน
 ค. ขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายโดยยึดเส้นแบ่งช่องทางเดินรถเป็นหลัก
 ง. รถคันเล็กกว่าต้องให้รถคันใหญ่กว่าขับไปก่อน

13. เพราะเหตุใดจึงห้ามเปิดไฟฉุกเฉินในขณะขับรถ?
 ก. ทำให้ผู้ขับรถคันอื่นสับสน ตัดสินใจผิดพลาด
 ข. แสงไฟจะรบกวนสายตาผู้ขับรถคันอื่น
 ค. ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่าปกติ
 ง. ทำให้หลอดไฟเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ

14. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว?
 ก. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวมีอายุครบ 1 ปี สามารถนำมายื่นใช้เป็นหลักฐานเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชนิด 5 ปีได้
 ข. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวมีอายุ 1 ปี
 ค. ผู้ประสงค์ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวต้องอายุครบ 18 ปี
 ง. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวสามารถนำมาใช้ขับรถยนต์รับจ้าง (TAXI) ได้

************

รวมแนวข้อสอบพร้อมเฉลยใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ปี 2565-2566


รวมแนวข้อสอบพร้อมเฉลยใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ปี 2565-2566 (2022-2023)


วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน



ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน สำหรับผู้ที่จะต่อใบขับขี่โดยทั่วไป ซึ่งได้แก่ ใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคล ทั้งใบขับขี่รถยนต์ ใบขับขี่รถยนต์สามล้อ และใบขับขี่รถจักรยานยนต์ สามารถยื่นคำขอใบอนุญาตใหม่ หรือ ทำการต่อใบขับขี่ ได้โดยมีเงื่อนไขคือ

1. หากใบขับขี่หมดอายุมาแล้วไม่เกิน 1 ปี สามารถยื่นคำขอต่อใบขับขี่ได้เลย

2. หากใบขับขี่หมดอายุมาแล้วเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องสอบข้อเขียนใหม่

3. หากใบขับขี่หมดอายุมาแล้วเกิน 3 ปี ต้องเข้ารับการอบรม สอบข้อเขียนใหม่ และทดสอบขับรถใหม่ทั้งหมด รวมทั้งต้องยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์เพิ่มเติมด้วย

-สรุปได้ว่าเมื่อใบขับขี่หมดอายุ ควรจะทำการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยภายในไม่เกิน 1 ปีนั่นเอง









ใบขับขี่หมดอายุค่าปรับเท่าไหร่ กรณีใบขับขี่หมดอายุ ไม่มีการเสียค่าปรับเมื่อไปทำการต่อใบขับขี่ แต่จะมีบทลงโทษหากขับขี่รถในขณะที่ใบขับขี่หมดอายุ ซึ่งมีอัตราค่าปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท

ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่คือ

1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน

2. บัตรประชาชนฉบับจริง

3. ใบรับรองแพทย์ (แล้วแต่กรณี)

-สามารถอ่านรายละเอียดในการต่อใบขับขี่เพิ่มเติมคลิก ต่อใบขับขี่

ใบขับขี่หมดอายุต่อล่วงหน้าได้หรือไม่ ในกรณีที่ต้องการต่อใบขับขี่ก่อนวันหมดอายุ หรือต่อใบขับขี่ล่วงหน้า สามารถทำได้ โดยการต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน ส่วนการต่อใบขับขี่แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน

ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อใบขับขี่หมดอายุในช่วง โควิด-19 ระบาด หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 กรมการขนส่งทางบก ได้ออกประกาศงดให้บริการด้านใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการยกเลิก พ.ร.บ.ฉุกเฉิน โดยขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีต่าง ๆ มีดังนี้

ใบขับขี่หมดอายุแล้ว ทำอย่างไร สำหรับผู้ที่ใบอนุญาตขับรถ หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ หมดอายุแล้วไม่เกิน 1 ปี หรือหมดอายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป หรือครบอายุในระหว่างช่วงโรคระบาด ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกงดให้บริการต่อใบอนุญาต "ให้ถือว่ายังสามารถใช้ขับรถได้อยู่" นั่นก็หมายถึง ขยายเวลาใบขับขี่ของทุกคนออกไป แม้จะหมดอายุแล้ว แต่ในช่วงนี้สามารถใช้ได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย

จะสามารถไปต่อใบขับขี่ได้เมื่อไร ? ให้ไปขอต่อใบอนุญาตขับขี่ หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ ภายใน 15 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่มีการประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ฉุกเฉิน หรือมีประกาศเป็นอย่างอื่นจากทางภาครัฐ

นอกจากงดให้บริการด้านใบอนุญาตขับขี่แล้ว กรมการขนส่งทางบก ยังประกาศงดให้บริการต่อไปนี้ด้วย ได้แก่

- งดการเรียนการสอน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก

- งดการออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านใบอนุญาตขับขี่ และด้านทะเบียนและภาษีรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี ที่ห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชน หรือศูนย์บริการร่วม

ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 กรมการขนส่งทางบก ได้อำนวยความสะดวกประชาชน ด้วยการเปิดระบบการอบรมต่อใบอนุญาตขับขี่ทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ (www.dlt-elearning.com) ซึ่งมีผู้เข้าอบรมไปแล้วกว่า 40,000 คน และยังสามารถเข้าอบรมทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองตลอด จากนั้นเมื่อมีการยกเลิก พ.ร.บ.ฉุกเฉิน เมื่อไร ก็สามารถนำผลการอบรมมาขอต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ได้ที่สำนักงานขนส่ง ภายใน 15 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ผลการผ่านอบรมทางออนไลน์สามารถอยู่ได้ 90 วัน นั่นหมายความว่า หากคุณเข้าอบรมออนไลน์ด้วยตัวเองช่วงนี้ แล้วหากมีการยกเลิก พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ภายใน 90 วันนี้ คุณยังสามารถใช้ผลการอบรมดังกล่าวเข้าต่อใบอนุญาตขับขี่ได้ ภายใน 15 วันทำการ แต่หากอบรมผ่านไปแล้ว แต่ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ยังบังคับใช้นานไปกว่านั้น ก็จะทำให้ผลการอบรมโมฆะไป ซึ่งคุณต้องเข้าอบรมใหม่อีกครั้ง

การอบรมทางออนไลน์ ประกอบด้วย

1. อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถจักรยานยนต์) จำนวน 1 ชั่วโมง

2. อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขนส่ง จำนวน 2 ชั่วโมง

3. อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ หรือรถแท็กซี่, รถยนต์สามล้อสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ) จำนวน 3 ชั่วโมง

หากจะต่อทะเบียนรถ-ภาษีรถ ทำอย่างไร ขณะที่การให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถ ณ ที่ทำการสำนักงานขนส่ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)









อย่างไรก็ดี กรมการขนส่งทางบก แนะนำให้ใช้ช่องทางชำระภาษีรถประจำปีอื่น โดยไม่ต้องมาติดต่อที่สำนักงานขนส่ง ได้แก่ บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (https://eservice.dlt.go.th), เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet mPAY, ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

ขอขอบคุณที่มาจาก: กรมการขนส่งทางบก

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการสอบใบขับขี่ แนะวิธีการสอบ



หลังจากได้รู้เกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ การต่อทะเบียนรถยนต์ ไปแล้ว วันนี้ทีมงานสยามสตรีทจะพาทุกท่านมาดูวิธีการสอบใบขับขี่กันบ้าง เพื่อลดอาการตื่นเต้นมนการสอบครั้งแรก เอกสารมีอะไรบ้างและต้องทำอย่างไรตามไปดูกันค่ะ





วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

เริ่มวันนี้!! จบครบใน3นาที 4 ขั้นตอน สมัครใบขับขี่ดิจิตอล

   หลังจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่ สามารถออกใบสั่งได้ แต่จะไม่มีอำนาจยืดใบอนุญาตขับขี่ได้ ขณะที่ประชาชนแสดงใบอนุญาตขับขี่เมื่อถูกเรียกตรวจโดยสามารถแสดงได้ทั้งใบอนุญาตขับขี่ตัวจริงแบบเดิม หรือ แสดงใบอนุญาตขับรถเสมือนจริงทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ วันนี้เราจึงนำ วิธี สมัครใบขับขี่ดิจิตอลมาฝาก






1. เข้าสู่ระบบ (คนที่ลงทะเบียนแล้ว สามารถเข้าระบบได้เลย) หากยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถลงได้ทะเบียนได้ 2 วิธี คือ แบบมี QR Code และ แบบไม่มี QR Code สำหรับการลงทะเบียนแบบ QR Code ระบบจะให้กรอกข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน อีเมล เพื่อรับรหัส OTP จากนั้นให้ตั้งรหัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จำนวน 6 หลัก




2. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้แสกน QR Code หลังใบอนุญาตขับขี่

3. เข้าสู่เมนูในหน้าหลัก เช่น ใบขับขี่เสมือนจริง, ข้อมูลส่วนบุคคล, แชร์เส้นทางการเดินทาง, SOS ขอความช่วยเหลือ และ ข้อมูลข่าวสาร




4. กรณีที่ด้านหลังใบอนุญาตขับขี่ไม่มี QR Code ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิชันนี้ได้เช่นกัน โดยเลือกลงทะเบียนแบบ ไม่มี QR Code จากนั้นระบบจะให้กรอกข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน อีเมล เพื่อรับรหัส OTP และตั้งหรัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จำนวน 6 หลัก เช่นเดียวกับวิธีแรก




แต่จะมีข้อแตกต่างคือ ผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าใช้บางเมนู เช่น ใบขับขี่เสมือนจริง การแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อต่ออายุใบขับขี่ หากต้องการใช้ครบทุกเมนูจะต้องนำใบอนุญาตขับขี่ไปเปลี่ยนเป็นใบใหม่ ที่ด้านหลังมี QR Code.ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพเพิ่มเติม




โพสต์







        ประชาชนผู้ใช้รถ สามารถติดต่อขอทำใบอนุญาตขับรถที่มี QR Code ได้ที่กรมการขนส่งทางบกทุกพื้นที่ ซึ่งขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ยาก เพียงแค่กดเข้าแอปพลิเคชัน และลงทะเบียนโดยกรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชนกับอีเมล์ ตามข้อมูลด้านบนนั้นได้เลย

ขอขอบคุณที่มาจาก: กรมขนส่งทางบก

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ต่อภาษีรถแบบ ใช้เวลา 3นาทีไม่ต้องลงจากรถ


 

สำหรับผู้ขับขี่ทุกท่านที่มีรถ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการต่อภาษีรถ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ไม่แพ้กับการทำ พ.ร.บ. รถยนต์ เพราะถ้าไม่ยอม ต่อภาษีรถยนต์ ก็จะมีผลทางกฎหมาย แต่การต่อภาษีรถในแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน ทำให้หลายท่านไม่มีเวลาที่จะไปต่อภาษีรถ จนล่วงเลยเวลาไป







แต่ล่าสุดทาง สำนักงานขนส่งจังหวัดปทุมธานี เปิดให้บริการ “เลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru For Tax” ไม่ต้องลงจากรถ ใช้เวลา ไม่เกิน 3 นาที

สถานที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดปทุมธานี

เปิดให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์ – ศุกร์

ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 15.30 น.

หยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์







หลักฐานที่ใช้

- คู่มือจดทะเบียนรถหรือสำเนา

- หลักฐานการทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ( พ.ร.บ.)





*หมายเหตุ*

- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้และรถกระบะ ที่จดทะเบียนตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และรถจักรยายนต์ที่จดทะเบียนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ จากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)

- รถที่ใช้แก๊ส ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ และการติดตั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ NGV หรือ LPG เป็นเชื้อเพลิง

นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสะดวกที่เหมาะกับหลายๆท่านที่ไม่ค่อยจะมีเวลา ทั้งนี้ยังมี ขนส่งในหลายพื้นที่ที่เปิดให้บริการต่อภาษี แบบ Drive Thru ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา นนทบุรี ราชบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี ระยอง ตราด สระบุรี

ขอขอบคุณที่มาจาก : FM91 Trafficpro  , tkvariety

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562

ต่อภาษีรถ ไม่ต้องไปขนส่งแล้ว เพียงเข้าเว็บและทำตามขั้นตอนแบบนี้ ง่าย สะดวก และรวดเร็ว





การต่อภาษีรถยนต์ หรือ การต่อทะเบียนรถยนต์ ท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องที่กฎหมายบังคับที่รถทุกคันจะต้องทำทุกปี โดยท่านสามารถทำการต่อภาษีล่วงหน้าได้ 3 เดือน แต่ถ้าท่านล้าช้าก็จะมีโทษดังนี้
ต่อภาษีรถล่าช้าหรือว่าเกินกำหนดจะถูกปรับ 1% ต่อเดือนของค่าภาษีรถ
ขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี จะถูกระงับการใช้งานทันที และจะต้องเสียภาษีและค่าปรับย้อนหลังและต้องทำการขอจดทะเบียนรถใหม่
ขาดต่อภาษีเกิน 1 ปี ต้องตรวจสภาพ ตรอ. พร้อมเสียภาษีและค่าปรับย้อนหลัง
ใช้รถขาดต่อทั้ง พ.ร.บ. และ ภาษี โทษปรับทางจราจร 20,000 บาท
ใช้รถที่ไม่มี พ.ร.บ. (ขาดต่ออายุ) มีโทษปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท
ใช้รถไม่จดทะเบียน(ขาดต่อภาษี) มีโทษปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท
ใช้รถที่ไม่แสดงเครื่องหมายการชำระภาษี มีโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท

เรื่องนี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลานะคะ
หรือคนที่ทำงาน เวลากลับนั้นก็ค่ำไปแล้ว
นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกของคุณที่จะไปต่อภาษีรถ
โดยไม่ต้องเดินทางไปขนส่งให้ยุ่งยากเสียเวลา แถมเป็นวิธีที่เร็วและสะดวกกว่าอีกด้วย
รายละเอียดเป็นยังไงนั้นไปดูกันเลยจ้า
ทำตามวิธีนี้เลยจ้า
1.เข้าเว็บไซค์ www.dlte-serv.in.th หรือ www.dlt.go.th
2.ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน
3. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ
4. เลือกต่อภาษี
*** สิ่งที่ต้องใช้กรอกเลขที่ของ พรบที่ไม่หมดอายุ *** (ถ้ารถเกิน 7 ปีต้องตรวจสภาพด้วย)




5. เลือกจ่ายตังได้เลย มันจะบวกค่าส่ง ems 40 บาท ช่องทาง
– หักผ่าน บช (มีแค่ 3 ธนาคาร)
– ตัดบัตรเครดิต (ชาท 2%)
– พิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระ ณ เคาน์เตอร์หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
– บริการชำระด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ ได้แก่ ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงศรีอยุธยา * ที่เคาน์เตอร์ธนาคารบริการ ได้แก่ ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงเทพ, ธ.ธนาชาต, ธ.ก.ส, ธ.ไทยธนาคาร, ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.ทหารไทย, บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระที่ตู้ ATM ได้แก่ ธ.กรุงไทย, ธ.ธนาชาต, ธ.กรุงเทพ, ธ.ทหารไทย
– กรมการขนส่งทางบก จะส่งใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และ กรมธรรม์ พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์
หลังจากนั้นรอไม่เกิน 7 วัน ป้ายภาษีของเราก็จะเดินทางมาถึงว้าวง่ายๆเลยจ้า เพิ่มเติมเราสามารถต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือนนะจ๊ะ
เป็นไงบ้างค่ะวิธีง่ายๆ สำหรับคนที่มีเวลาน้อยแค่เสียเวลาในการกรอกข้อมูลเพียงน้อยนิดเท่านั้นเราก็ได้ใบภาษีมาแล้วจ้า
แหล่งที่มา : กรมการขนส่งทางบก