วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ ท่ามาตรฐานที่ใช้ในการสอบ


ท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาติขับขี่รถยนต์ มีท่ามาตรฐานที่จะต้องสอบอยู่ 3 ท่าด้วยกัน ได้แก่

ท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
ท่าถอยหลังเข้าจอด
ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
โดยแต่ละท่าจะมีเทคนิคสำคัญๆอะไรบ้าง ลองมาดูกันเลยครับ


1. ท่า เดินหน้า ถอยหลังตรง

ท่า เดินหน้า ถอยหลังตรง ถือว่าเป็นท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอในอนุญาติขับขี่รถยนต์ที่ไม่ยาก แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน บางครั้งผู้มาสอบหลายคนติดประมาท ทำให้สอบตกท่านี้ ต้องเสียเวลามาสอบใหม่ก็มีเหมือนกัน ดังนั้น อย่าประมาทเด็ดขาด



หลักเกณฑ์การสอบท่า เดินหน้า ถอยหลังตรง

เดินหน้าและถอยหลังรถของคุณตรงๆ ในช่องทางที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้ โดยที่รถต้องไม่ชนกับสิ่งกีดขวาง

1. เดินหน้ารถของคุณเข้าไปในช่องทางที่เจ้าหน้าที่คุมสอบกำหนดไว้ให้ โดยต้องพยายามแต่งรถของคุณให้ตรง หลังจากนั้นให้เดินหน้าตรงๆ ช้าๆไปจอดยังจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้


2. หลังจากนั้นให้ถอยหลังตรงๆ ช้าๆ มาจอดยังจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ เมื่อทำสำเร็จแล้วให้ขับรถออกไปได้ เท่านี้ก็ผ่านฉลุยแล้ว สำหรับท่านี้


*ข้อควรระวังของการสอบท่านี้ก็คือ ต้องพยายามตั้งรถให้ตรง มิเช่นนั้น รถของคุณอาจจะชนกับสิ่งกีดขวางด้านข้างได้ โดยให้เดินรถไปอย่างช้าๆ*

2. ท่า ถอยหลังเข้าจอด


ท่านี้ เป็นการทดสอบทักษะในการถอยหลังเข้าจอดรถ โดยที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งอาจจะเป็นท่าที่ยากสำหรับผู้ที่ยังขาดความชำนาญในการจอดรถ ซึ่งอาจจะมีปัญหาเรื่องการกะระยะ แต่เราก็มีเทคนิคสำหรับสอบผ่านท่านี้ได้โดยง่าย ซึ่งถ้าปฏิบัติตามเทคนิคนี้แล้ว การสอบผ่านท่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป



หลักเกณฑ์การสอบท่าถอยหลังเข้าจอด

ถอยหลังเข้าจอดในพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ให้ (ล้อรถอยู่ในเส้น) และรถของคุณ ต้องไม่ชนกับสิ่งกีดขวางเด็ดขาด โดยในขณะที่สอบ สามารถเปลี่ยนเกียร์เดินหน้า-ถอยหลังได้ไม่เกิน 7 หน




1. เดินรถขนานไปกับเส้น ให้ล้อหลังของรถคุณ ตรงกับเสาต้นที่ 3 ดังภาพด้านบน โดยพยายามให้ระยะห่างระหว่างรถกับเสาน้อยที่สุด



2. หมุนพวกมาลัยไปทางซ้ายให้สุด แล้วใส่เกียร์ถอยหลังเข้าไปช้าๆ โดยให้มองที่กระจกด้านขวาของรถ เมื่อเห็นเสาในกระจกครบทั้ง 3 ต้น (เสาต้นที่ 4, 5 และ 6) แล้ว ให้หยุดรถ

3. คืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรง แล้วถอยหลังเข้ามา ให้หัวรถด้านซ้ายตรงกับเสาต้นที่ 3 แล้วให้หยุดรถ



4. หมุนพวกมาลัยไปทางขวาให้สุด ถอยหลังเข้าไปช้าๆ จนตัวรถเข้าไปอยู่ในเส้นทั้งหมด และขนานเป็นแนวเดียวกับเส้น โดยระหว่างถอย ให้มองกระจกข้างด้านซ้าย และกระจกมองหลัง เพื่อระวังไม่ให้รถไปชนกับสิ่งกีดขวางเสียก่อน ซึ่งหากคิดว่าจะถอยไม่พ้นสิ่งกีดขวาง อย่าฝืน ให้เดินหน้า แต่งรถได้ตามสมควร แต่ต้องระวังไม่ให้เปลี่ยนเกียร์เดินหน้า-ถอยหลังเกิน 7 ครั้งฃ
เมื่อตัวรถเข้าไปอยู่ในเส้นทั้งหมด และขนานเป็นแนวเดียวกับเส้น ก็เท่ากับว่า เราสอบผ่านท่านี้แล้ว ซึ่งหากปฏิบัติตามเทคนิคนี้แล้ว การสอบผ่านท่านี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

3. ท่า จอดรถเทียบทางเท้า


ในบรรดาท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาติขับขี่รถยนต์ทั้ง 3 ท่านั้น ท่านี้ ถือได้ว่าเป็นท่าที่หินที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ท่าเลยก็ว่าได้ เพราะในบรรดาผู้ที่สอบปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาติขับขี่รถยนต์ไม่ผ่าน และต้องมาขอสอบซ่อม ส่วนมากก็มีสาเหตุจากการสอบตกท่านี้มากที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ท่า ขนาดคนขับรถแท็กซี่ซึ่งขับรถเก่งๆบางคนยังสอบตกท่านี้เยอะพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นท่าปราบเซียนกันเลยทีเดียว

หลักเกณฑ์การสอบท่าจอดรถเทียบทางเท้า


บังคับรถของคุณ เข้าจอดเทียบกับฟุตบาท โดยให้ล้อรถทั้ง 2 ล้อของคุณ เหยียบอยู่บนเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ โดยที่ล้อไม่ชนกับขอบฟุตบาทให้ได้






1. บังคับรถเอียงไปทางซ้ายเข้าหาฟุตบาท โดยกะระยะให้ล้อหน้าของรถเหยียบกับเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ให้ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังพอสมควร เพราะถ้าเดินรถเข้าไปลึกเกินไป ล้อรถจะชนกับขอบฟุตบาทได้


2. เมื่อล้อหน้าของรถเหยีบกับเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ให้แล้ว ให้หมุนพวงมาลัยกลับมาทางขวา โดยค่อยๆไล่ให้ล้อหลังของรถเข้ามาเหยียบเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ (โดยในขั้นตอนนี้ อาจจะอาศัยการมองกระจกข้างของรถช่วย เพื่อให้เห็นว่าล้อหลังของรถเข้ามาเหยียบบนเส้นสีขาวแล้ว)
เมื่อล้อหลังของรถคุณ เข้ามาเหยียบบนเส้นสีขาวแล้ว ให้หมุนนพวงมาลัยรถกลับมาให้ตรง โดยข้อควรระวังของขั้นตอนนี้ก็คือ หากเดินรถกลับมาทางขวามากเกินไป ล้อหน้าของรถคุณอาจจะหลุดออกจากเส้นสีขาวได้




3. เมื่อหมุนพวงมาลัยกลับมาตรงแล้ว ให้เดินรถไปด้านหน้าตรงๆ หากคิดว่าล้อหน้าของคุณไม่เหยียบเส้นให้ปรับแต่งได้ตามพอสมควร แล้วเดินหน้าไปจอด ณ บริเวณที่กรรมการสอบกำหนดเอาไว้
*ทริกการสังเกตุที่สำคัญสำหรับขั้นตอนนี้คือ หากเดินรถไปข้างๆตรงๆแล้ว ล้อหลังของคุณยังเหยียบอยู่บนเส่นขาวอยู่ ก็แสดงว่าล้อหน้าของคุณก็กำลังเหยียบอยู่บนเส้นขาวเช่นเดียวกัน*

1 ความคิดเห็น :